เรื่องที่ ๑๑ เชี่ยงใหม่
เมื่อเดื่อนสิงหาคมผมกับแฟนได้ไปเที่ยวที่เชี่ยงใหม่มา
ผมมีงานงานที่ืเชี่ยงใหม่ในวันศุกร์ที่๒๙นะครับ
ผมโชคดีที่บริษัทจ่ายค่าเครื่องบินให้และบังเอิญว่าวันเสาร์และวันอาทิตย์วันหยุดงานก็เลยตั้งใจว่าจะพักเและเที่ยวที่เชี่ยงใหม่
แฟนของผมหลังจากเลิกเรียนแล้วก็นั่งรถทัวร์ตามมาที่เชียงใหม่
คนไทยส่วนมากบอกว่าจังหวัดเชี่ยงใหม่เป็นสถานที่ที่น่าท่องเที่ยว
เพราะว่าอากาศดี มีวัดและทิวทัศน์ที่สวยงาม คนญี่ปุ่นก็คิดเหมือนกัน
เพราะคนญี่ปุ่นชอบธรรมชาติ
ในหนังสือท่องเที่ยวเกี่ยวกับจังหวัดเชี่ยงใหม่เขียนว่าจังหวัดเชี่ยงใหม่เป็นสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทย
วันเสาร์และวันอาทิตย์ผมกับแฟนได้ไปชมสถานที่หลายแห่ง เช่น วัดดอยสุเทพ
พระตําหนักภูพิงค์ราชนิเวศ หมู่บ้านชาวแม้ว ปางช้างแม่สา นํ้าพุร้อนสันกําแพง
และไนท์บาซาร์ เป็นต้น
สําหรับผมสถานที่ที่ชอบมากที่สุดคือ
นํ้าพุร้อน เพราะว่าที่ประเทศญี่ปุ่นในฤดูหนาว นั้นหนาวจริง ๆ
เวลาอาบนํ้าก็นิยมแช่นํ้าอุ่นด้วย
แต่หลังจากมาเมืองไทยแล้ว ผมไม่มีโอกาสที่จะได้แช่นํ้าอุ่น
ผมเลยแช่นํ้าพุร้อนนาน
ๆ ผมชอบเมืองไทยแต่อาจจะเป็นเพราะว่าผมอยู่ที่ญี่ปุ่นนานแล้ว
ตอนที่ผมแช่นํ้าอุ่นผมก็มีความรู้สึกสบาย
และอาการเหนื่อยล้าก็จะหายไปด้วย
ผมมีความรู้สึกว่าเชี่ยงใหม่น่าอยู่
ความจริงคนญี่ปุ่นที่เกษียรแล้วก็มาอยู่ที่เชี่ยงใหม่หลายคน
เพราะว่าชีวิตในกรุงเทพดูจะมีความสับสนและวุ่นวายแตะในต่างจังหวัดน่าจะมีชีวิตที่สงบและเรียนง่ายกว่าในกรุงเทพ
เมืองไทยได้ชื่อว่าเมืองยิ้มแต่เท่าที่ผมได้พบเห็นคนในกรุงเทพไม่ค่อยยิ้มสักเท่าไร
ผมคิว่ายิ่งเจริญแล้วก็ยิ่งมีสิ่งที่จะทําให้เกิดความหงุดหงิดมากขึ้น
เวลาอยู่กรุงเทพพวกเราอยากได้ความสะดวกความสบายแต่ที่ญี่ปุ่นมีคนที่ไม่ชอบชีวิตในเมืองเป็นจํานวนมาก
บางคนบอกว่าธรรมชาติเป็นทรัพย์สมบัติที่มีคุณค่ามากที่สุด
บางคนบอกว่าธรรมชาติดีกว่าเทคโนโลยี่คนญี่ปุ่นบอกว่าเชีี่ยงใหม่อากาสดีแต่กรุงเทพอากาสเป็นพิษ
ต่อให้รวยสักเพียงใดก็หาซื้อความเป็นธรรมชาติและอากาสที่บริสุทธิ์ไม่ได้เพราะฉะนั้นถ้าผมไม่ต้องทํางาน
ผมอยากจะไปอยู่ที่ต่างจังหวัดแน่นอน โดยเฉพาะจังหวัด ตราด มีเกาะช้างสวยมากครับ
และก็เป็นจังหวัดบ้านแฟนของผมด้วยนะครับ สวยมากนะครับ จังหวัดเล็ก ๆ
แต่อากาสดีมานะครับ
เทซึ
๑๖
กันยายน ๒๕๔๖